ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นหนึ่งในปัญหาที่ส่งผลกระทบกับผู้คนจำนวนมาก ท่ามกลางการเจริญเติบโตของประชากร, เทคโนโลยีและการพัฒนาเศรษฐกิจที่รวดเร็ว ปัญหาขยะเป็นปัญหาใหญ่ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน กลายเป็นหนึ่งในผลกระทบที่ทุกคนจะต้องรับมือกันเพื่อจัดการแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม ไม่เพียงทำให้เกิดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพมนุษย์และสังคมทั้งทางตรงและทางอ้อมอีกด้วย ดังนั้นการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับสินค้าที่ใช้แทนพลาสติกหรือผลิตภัณฑ์ภาชนะ บรรจุภัณฑ์ หีบห่อที่มาจากวัสดุจากธรรมชาติ จึงมีความสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อประเทศและโลกของเราในอนาคต เพื่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพที่ยั่งยืน
ข้อกฎหมายหรือข้อบังคับใช้เกี่ยวกับการยกเลิก Single Used Plastic ที่จะเกิดขึ้นในปี 2024
หลังจากสหภาพยุโรป หรือ EU ประกาศบังคับใช้เกี่ยวกับการยกเลิกผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ใช้แบบครั้งเดียว (Single-use plastics) เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2018 เพื่อลดปริมาณขยะพลาสติก ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาสิ่งแวดล้อมและทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น ส่งผลให้ประเทศสมาชิกและประเทศนอกสมาชิกที่จะผลิตสินค้าโดยใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวจะโดนจัดเก็บในเรื่องภาษีการจัดการขยะและค่าบริหารในการจัดการขยะทุกรูปแบบ ทำให้หลายประเทศต่างได้รับผลกระทบหากต้องการนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายในประเทศเครือสหภาพยุโรป ในช่วงแรกหลายประเทศต่างได้รับผลกระทบ เพราะเตรียมตัวไม่ทัน โดยปัจจุบันเริ่มมีผลบังคับใช้แล้วในสินค้า 10 ประเภท ดังนี้
1. กล่องอาหารพลาสติก
2. แก้วพลาสติก
3. ก้านพันสำลี
4. ช้อนและส้อมพลาสติก/หลอดและที่คนกาแฟ
5. บอลลูนและก้านบอลลูนพลาสติก
6. บรรจุภัณฑ์ห่อขนมขบเคี้ยว
7. บรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มและฝา
8. ก้นกรองบุหรี่
9. ทิชชูเปียก/ผ้าอนามัย
10. ถุงพลาสติก
ซึ่งประเทศที่ส่งออกสินค้าดังกล่าวจะต้องเปลี่ยนวัสดุสำหรับห่อหุ้ม บรรจุภัณฑ์ เป็นวัสดุที่สามารถนำมา Recycle, Reuse หรือสามารถย่อยสลายเองได้โดยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยประเทศจีนที่ถือเป็นผู้นำอันดับ 1 ในการส่งออกสินค้าไปสหภาพยุโรปได้เริ่มบังคับใช้แล้วใน 5 เมืองหลัก ในปี ค.ศ. 2021 และจะขยายผลให้ครอบคลุมทั้งประเทศในปี ค.ศ. 2024 สำหรับประเทศไทย EU ถือเป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 8 ของไทย ทำให้บริษัทเอกชนที่ส่งออกสินค้าไป EU เริ่มที่จะหันมาค้นคว้าและวิจัยผลิตภัณฑ์วัตถุดิบทางเลือกใหม่ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมอีกทั้งยังต้องรักษาฐานการตลาดใน EU ด้วย
โอกาสของอุตสาหกรรมไบโอพลาสติกในประเทศ
สำหรับอุตสาหกรรมไบโอพลาสติกในประเทศพบว่ามากกว่า 90% จะเป็นการผลิตเพื่อการส่งออก ซึ่งมีอเมริกาและยุโรปเป็นตลาดหลัก เนื่องจากมีการบังคับใช้ทางกฎหมาย ในขณะที่การใช้งานภายในประเทศยังมีไม่มาก ในอนาคตอาจจะต้องอาศัยภาครัฐและเอกชนร่วมมือสนับสนุนให้คนไทยหันมาใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อให้อุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพของไทยโตแบบก้าวกระโดดตั้งแต่เกษตรกรไปจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูป
ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมและมีสินค้าทางการเกษตรจำนวนมาก ทำให้มีโอกาสที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ไบโอพลาสติกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียได้ ซึ่งการพัฒนาไบโอพลาสติกในประเทศช่วยลดปัญหาขยะพลาสติก สร้างโอกาสทางธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรให้เป็นที่ยอมรับทั่วไปอีกด้วย วัสดุทางการเกษตรที่นำมาใช้ในการผลิตไบโอพลาสติกและเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าเกษตร ได้แก่ กากมันสำปะหลัง, กากอ้อย, ฟางข้าว, ต้นข้าวโพด ที่เกษตรกรส่วนใหญ่มักจะใช้วิธีเผาทำลาย พร้อมยังมีส่วนช่วยในการลดการเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และช่วยลดโลกร้อนได้อีกทางหนึ่ง ด้วยการนำสินค้าทางการเกษตรมาใช้พัฒนาเป็นสินค้าไบโอพลาสติกก็จะช่วยยกระดับราคาสินค้าทางการเกษตรให้กับเกษตรกรไทยอีกทางหนึ่งด้วย
แหล่งผลิตและกระบวนการผลิตต้องไม่กระทบสิ่งแวดล้อม
นอกจากแหล่งที่มาของวัตถุดิบที่ใช้ในกระบวนการผลิตแล้ว โรงงานและกระบวนการผลิตจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย ในเบื้องต้นของกระบวนการผลิตจะต้องได้รับการรับรองระบบ ISO14001 หรือมาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อม โดยส่วนใหญ่โรงงานที่อยู่ในสวนอุตสาหกรรมหรือนิคมอุตสาหกรรมมักจะได้รับการรับรองเกี่ยวกับการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม เพราะข้อกำหนดส่วนใหญ่เป็นข้อบังคับตามกฎหมายที่นิคมอุตสาหกรรมเหล่านั้นต้องปฏิบัติตาม เช่น การบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยออกจากโรงงาน, การคัดแยกขยะและวิธีการทำลาย, การควบคุมและลดปริมาณขยะในกระบวนการผลิต ซึ่งจะต้องได้รับการรับรองและตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสวนอุตสาหกรรม 304 หนึ่งในพื้นที่การผลิตที่อยู่ใกล้แหล่งสินค้าทางการเกษตรและแรงงานมากที่สุด จึงมั่นใจได้ว่าวัตถุดิบที่ใช้ผลิตสินค้าไบโอพลาสติกมีเพียงพอต่อความต้องการ
เชื่อได้ว่าเทรนอุตสาหกรรมไบโอพลาสติกจะเป็นเทรนที่ครองส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุดในอนาคต ไม่เพียงแต่สินค้า 10 รายการที่กล่าวมาข้างต้น แต่อาจรวมไปถึงสินค้าอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก ไม่เว้นแม้แต่เครื่องนุ่งห่ม ที่มีหลายแบรนด์เริ่มที่จะหันมาวิจัยและพัฒนาสินค้าในเครือ สำหรับประเทศไทยการใช้ไบโอพลาสติกยังสร้างโอกาสให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้วัสดุที่มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ในด้านความรับผิดชอบทางสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นและเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการผลิตขึ้นในประเทศไทย ดังนั้น การพัฒนาอุตสาหกรรมไบโอพลาสติกสำหรับประเทศไทยไม่เพียงแค่เป็นการลดปัญหาสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจและสร้างการยอมรับทั่วไปให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ผลิตขึ้นในประเทศ
ที่มาของข้อมูล